ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและมีวิกฤตโควิด – 19 ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นและตกอยู่ในสภาวะขาดรายได้ หลายคนจึงต้องเผชิญกับปัญหาทางการเงินที่ไม่คาดฝัน หนึ่งในนั้นคือปัญหาผ่อนบ้านไม่ไหว เคยผ่อนสบาย ๆ แต่ด้วยปัญหามากมาย ทำให้ผ่อนต่อไปไม่ไหวแล้ว ซึ่งเราสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการ รีไฟแนนซ์บ้าน ให้มีก้อนมาหมุนเวียน ผ่อนสบายยิ่งขึ้นด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง
สำหรับใครที่ยังไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับการทำรีไฟแนนซ์บ้าน ในบทความนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับการรีไฟแนนซ์ฉบับเข้าใจง่ายพร้อมแนะนำแหล่งรีไฟแนนซ์ดี ๆ ให้กับทุกท่านกัน
ทำความเข้าใจ รีไฟแนนซ์บ้าน หรือคอนโด คืออะไร

รีไฟแนนซ์บ้านหรือคอนโด คือ การย้ายสินเชื่อคอนโดหรือบ้านที่เรากู้อยู่กับสถาบันการเงินเดิม ไปยังสถาบันการเงินใหม่ ด้วยการนำเงินก้อนจากสถาบันการเงินใหม่ไปปิดสถาบันการเงินที่เป็นหนี้อยู่ก่อนหน้า เพื่อดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านที่ถูกกว่าธนาคารเดิม
ส่วนใหญ่ธนาคารจะมีข้อกำหนด ห้ามย้ายไปธนาคารอื่นภายในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งเมื่อหลังครบสัญญาดอกเบี้ยบ้านจะปรับลอยตัวสูงขึ้น เช่น จากเดิมดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 2.5 – 4% ก็ปรับเป็น 7% ต่อปี ทำให้เงินที่เราผ่อนจ่ายไปทุกเดือนเป็นเป็นดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น พูดง่าย ๆ ก็คือ ช่วงแรกจะมีโปรให้เราได้ผ่อนสบาย แล้วพอผ่อนบ้านไปเกินครึ่งหนึ่งของระยะเวลาสินเชื่อแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะเปลี่ยนจากอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่มาเป็นลอยตัว ทำให้ปลดหนี้ได้ช้าลง
แต่เมื่อรีไฟแนนซ์แล้วก็เหมือนได้เริ่มรับโปรโมชันจากสถาบันการเงินใหม่ ทำให้ผ่อนชำระต่อเดือนถูกลงหรือผ่อนสบายขึ้นนั่นเอง ซึ่งเราสามารถรีไฟแนนซ์คอนโดหรือบ้านได้แม้จะยังติดผ่อนหรือติดฝากขายกับสถาบันการเงินก็ตาม
ใครเหมาะที่จะรีไฟแนนซ์บ้าน หรือคอนโด
- ผู้ที่ต้องการเพิ่มสภาพคล่อง จากส่วนต่างของดอกเบี้ยเมื่อรีไฟแนนซ์ ก็จะมีเงินก้อนจากการขอวงเงินเพิ่มมาให้เราสามารถหมุนเวียนใช้ก่อนได้
- ผู้ต้องการลดดอกเบี้ยในการผ่อนชำระคอนโดหรือบ้านต่อเดือนถูกลง
- ผู้ที่ต้องการลดระยะเวลาการผ่อนคอนโดหรือบ้าน ผ่อนบ้านหมดไวขึ้น
การวางแผนเพื่อยื่นรีไฟแนนซ์บ้านหรือคอนโด

- เตรียมเอกสารสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านให้พร้อม ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน เอกสารแสดงรายได้และเอกสารหลักประกันที่มี หากขาดเอกสารใดให้รีบดำเนินการติดต่อเพื่อรับเอกสารมาให้ครบ
- ตรวจสอบรูปแบบสินเชื่อที่เหมาะกับตัวเอง เช่น มีภาระที่ต้องผ่อนบ้านต่อเดือนเกินครึ่งหนึ่งของรายได้ ควรมองหาวิธีในการช่วยลดภาระหนี้ เช่น สินเชื่อรีไฟแนนซ์พร้อมรับวงเงินลดภาระหนี้
- ยื่นสมัครล่วงหน้า ประมาณ 30 – 60 วัน
ค่าใช้จ่าย สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านหรือคอนโด
- ค่าสำรวจและประเมินราคาหลักประกัน (2,000 – 3,000 บาท)
- ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนจำนอง (1% ของวงเงินกู้)
- ค่าประกันภาคบังคับ คือประกันอัคคีภัย เป็นไปตามมูลค่าบ้าน (ส่วนใหญ่ 1,000 – 3,000 บาท)
- ค่าธรรมเนียมอื่นๆเช่น ค่าอากรแสตมป์สัญญาเงินกู้ (0.05% ของวงเงิน)
แนะนำสินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้าน หรือคอนโดน่าสนใจในปี 2022
ธนาคาร | ดอกเบี้ย (%) | วงเงินกู้ | เงื่อนไข |
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ | 2.60 | วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน | สำหรับผู้กู้รายได้ตั้งแต่ 75,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | 2.75 | วงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาประเมิน | สำหรับหลักประกันประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ห้องชุดพักอาศัย ตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป |
ธนาคารกรุงเทพ | 2.78 | วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมินหลักประกัน | ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปของภาระหนี้คงเหลือ กรณีหลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยในกลุ่มโครงการที่มีข้อตกลงกับธนาคาร และทำประกัน |
ธนาคารไทยพาณิชย์ | 4.90 | วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมินหลักประกัน | มีสินเชื่อบ้านกับสถาบันการเงินอื่นไม่ต่ำกว่า 3 ปี |
ธนาคารกสิกรไทย | 5.97 | วงเงินกู้สูงสุด 90% ของราคาประเมินหลักประกัน | สูงสุดไม่เกิน 30 ปี (อายุผู้กู้ไม่เกิน 70 ปี) |

หากใครที่รู้สึกว่าแบกภาระหนี้สินในการผ่อนคอนโดไม่ไหว นอกจากเก็บออมเงินให้มากขึ้นแล้ว การรีไฟแนนซ์ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่างวดในแต่ละเดือนของเราลงไปได้ในระยะยาว ทำให้มีบ้านในฝันได้ง่ายยิ่งขึ้น ลองนำผลิตภัณฑ์รีไฟแนนซ์ที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ไปพิจารณา รับรองว่า สมัครได้ง่าย อนุมัติไว พร้อมกู้เพิ่มสบาย จ่ายค่างวดลดลง เรียกได้ว่าตอบโจทย์การมีบ้านในยุคนี้อย่างมาก