OpenSea คือ อะไร ชวนรู้จักแหล่งซื้อขาย NFT มาแรงแห่งยุค

NFT นับว่าเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ร้อนแรงอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมาซึ่ง NFT มี OpenSea เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนซื้อขายผลงานของเหล่านักศิลปินและนักสะสมทั้งหลาย ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ OpenSea ให้มากขึ้น ว่า OpenSea คือ อะไร มีความน่าสนใจมากน้อยแค่ไหนและมีวิธีใช้งานยังไงบ้าง เรามีคำตอบมาให้

ทำความรู้จัก OpenSea คือ อะไร

OpenSea คือ อะไร
NFT

OpenSea เป็นแพลตฟอร์มที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนผลงาน Non – Fuctible Token หรือ NFT โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบ ภาพถ่าย ผลงานศิลปะ การ์ตูนและอื่น ๆ อีกมากมาย พูดให้เห็นภาพก็เหมือน Alibaba หรือ eBay ที่เราสามารถนำของสะสมเข้าไปแลกเปลี่ยนซื้อขายกันได้ เพียงแต่เป็นกลุ่มสินค้าคนละแบบเท่านั้นเอง

ที่มาของ OpenSea

OpenSea ถูกพัฒนาโดย Ale Altallah และ Devin Finzer ในช่วงปี 2017 ซึ่งเกิดจากความสนใจในบล็อกเชนและคริปโตในช่วงแรก พวกเขาจึงได้ศึกษาข้อมูล จนในที่สุดก็ตัดสินใจเริ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนและคริปโต จากนั้นจึงพัฒนาเทคโนโลยีประเภทนี้ขึ้นมาจนกลายเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน NFT แบบเต็มตัว ไม่นานนักนักลงทุนทั้งหลายก็ค่อย ๆ ให้ความสนใจจนได้พัฒนามาเป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 ของโลก โดยปัจจุบันมีการเทรดงาน NFT กว่า 4 พันล้านดอลลาร์แล้ว

โดยผลงานใน OpenSea มีหลากหลายหมวดหมู่ เช่น

  • ผลงานศิลปะ เช่น ผลงาน The Merge ($91.8 million), Everydays – The First 5000 Days ($69.3 million) หรือ CryptoPunk #5822 ($23.7 million)
  • ผลงานเพลง เช่น ผลงาน Grimes ($7 million), Steve Aoki ($4.25 million) หรือ Kings of Leon ($2 million)
  • ผลงานกีฬา เช่น ผลงาน Statue of LeBron ($21.6 million), MLB Champions Brett Gardner ($21.28 million) หรือ Michael Jordan SportPunk ($5.06 million)

ความน่าสนใจของ OpenSea

NFT

OpenSea เปิดให้ผู้ใช้งานเข้ามาเทรด ซื้อ หรือขายงาน NFT ได้หลากหลายประเภท อีกทั้งยังสามารถดูข้อมูลเชิงลึก ที่น่าสนใจเกี่ยวกับภาพรวมตลาด NFT หรือมองหาโปรเจกต์ใหม่ ๆ ตามต้องการ ซึ่งสรุปฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ OpenSea ได้ ดังนี้

ความสะดวกสบายในการสร้าง NFT

ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือโปร การสร้าง NFT ก็ไม่ใช่เรื่องยาก นอกจาก OpenSea จะสามารถใช้เป็นตัวกลางซื้อขายแลกเปลี่ยนแล้ว ที่นี่ยังสามารถเป็น Generator ที่ใช้ในการสร้างผลงานของตัวเองได้อีกด้วย มีฟีเจอร์ที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน และไม่จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการเขียนโค้ดหรือบล็อกเชน

นอกจากนี้ยังสามารถใช้ได้ทุกระบบปฏิบัติการทั้ง iOS และ Android แค่มีอุปกรณ์และอินเทอร์เน็ตก็สามารถใช้งานในการซื้อขายแลกเปลี่ยน NFT ได้สะดวกสบายจากทุกที่

มี NFT ให้เลือกหลากหลายประเภท

อย่างที่เรายกตัวอย่างข้างต้น อีกหนึ่งข้อดีของ OpenSea คือ มีผลงาน NFT ให้เลือกซื้อขายแลกเปลี่ยนรวมถึงนำเสนอได้หลากหลายประเภท โดย OpenSea จะแบ่งประเภทของ NFT แต่ละประเภทไว้ เช่น ผลงานศิลปะ (Art) ภาพถ่าย (Photography) ดนตรี (Music) โลกเสมือนจริง (Visual) หรือ กีฬา (Sport) ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกดูโปรเจกต์ที่ได้รับความนิยมในแค่ละประเภทได้ตามต้องการ

ค่าธรรมเนียมต่ำ

OpenSea มีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มที่ถูกกว่าเจ้าอื่น ๆ ที่ทำแพลตฟอร์มประเภทเดียวกัน ซึ่งอยู่ที่ 2.5% ต่อการซื้อขายในแต่ละครั้ง ในขณะที่ Superrare และ KnownOrigin ค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 3% หรือ Nitfy Gateway ค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 5%

มีความน่าเชื่อ ปลอดภัยสูงในอุตสาหกรรม

OpenSea ทำงานผ่านระบบ Smart Contract ทำให้ทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นบน OpenSea ยากที่จะปลอมแปลงหรือโจรกรรมต่าง ๆ นอกจากนี้ รวมทั้งในการซื้อขายแลกเปลี่ยนจะต้อง Log In Wallet เพื่อทำธุรกรรมเท่านั้น จึงมั่นใจได้ว่าการซื้อขายแลกเปลี่ยน NFT ผ่านแพลตฟอร์มของ OpenSea นั้นมีความปลอดภัยสูงมาก

วิธีใช้งาน OpenSea เบื้องต้น

  1. สมัครใช้งาน Opensea โดยการ เชื่อมบัญชี Opensea กับ Crypto Wallet ไม่ว่าจะเป็น MetaMask, Wallet Connect หรือ Coinbase ก็สามารถรองรับได้
  2. สร้าง collection ของผลงาน ขึ้นมาได้เพื่อที่จะเก็บผลงานเป็นโปรเจกต์ ผลงานของเราก็จะมีระเบียบเรียบร้อย ง่ายต่อการเข้าชมของผู้ที่สนใจ โดยอย่าลืมระบุ Logo Image, Name, Feature Image และ Banner Image พร้อมกำหนด Token ที่ใช้ทำธุรกรรมให้เรียบร้อย
  3. ตั้งราคา ระยะเวลา และรายละเอียดต่าง ๆ ในการขายของผลงาน NFT ของเรา ซึ่งควรลงรายละเอียดผลงานของเราให้น่าสนใจมากที่สุด
  4. หลังจากสร้างผลงาน NFT ของเราเสร็จแล้ว ก็ Upload ลงบน OpenSea พร้อมขายได้เลย !

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากก้าวเข้าสู่วงการ NFT แล้วทำการสร้างผลงานเพื่อสร้างรายได้เสริมหรืออยากเข้ามาเก็ยสะสมผลงานที่ชื่นชอบ OpenSea เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่จะช่วยพาคุณเข้าสู่โลก NFT ที่น่าสนใจอย่างมาก ที่สำคัญมีผลงานให้เลือกหลากหลาย ใช้งานง่าย มีค่าธรรมเนียมต่ำ เหมาะกับทั้งผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นสนใจในวงการ NFT รวมถึงเหล่าเซียนทั้งหลายที่อยากจะเข้าไปเก็บผลงานมาสะสมหรือเก็งกำไร ก็เรียกได้ว่าตอบโจทย์อย่างมาก